โครงการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 44 แห่งทั่วประเทศ
สถานที่ตั้ง
จังหวัด หลายพื้นที่
รายละเอียดโครงการ ถอดบทเรียน
เมื่อคืนวันที่ 25 ต่อกับวันที่ 26 ตุลาคม 2505 ได้เกิดพายุโซนร้อนชื่อ "แฮเรียต" พัดผ่านทางตอนใต้ของประเทศไทยยังความเสียหายให้เกิดแก่จังหวัดภาคใต้ถึง 12 จังหวัดในคืนวันที่27 ตุลาคม 2505 เวลาประมาณ 19.00 น. นายปกรณ์ อังศุสิงห์ นายกมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ ได้รับโทรศัพท์จาก คุณพูนเพิ่ม ไกรฤกษ์ อดีตเลขาธิการสำนักพระราชวัง ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง หัวหน้ากองมหาดเล็กว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นห่วงผู้ประสบภัยและทรงติดต่อขอเครื่องบินจากกองทัพอากาศไว้แล้ว ขอให้รีบเดินทางไปช่วยเหลือโดยด่วน ขณะนั้น กรมประชาสงเคราะห์ ได้เตรียมสิ่งของไว้พร้อมแล้ว จึงเดินทางไปในวันรุ่งขึ้น คือ วันที่ 28 ตุลาคม 2505นายปกรณ์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ พร้อมด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงมหาดไทย อาทิ หลวงอรรถวิภาคไพศาลย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และ หลวงยุกตเสวีวิวัฒน์ อธิบดีกรมโยธาเทศบาล โดยมีนายประวิทย์ หาญณรงค์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย กรมประชาสงเคราะห์ เป็นเลขานุการคณะ ได้เดินทางไปพร้อมกับแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่สภากาชาดไทย ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถองค์สภานายิกาได้มีกระแสรับสั่งให้ร่วมเดินทางไปกับกรมประชาสงเคราะห์เพื่อทำการสงเคราะห์และบรรเทาทุกข์ในครั้งนี้ด้วย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สถานีวิทยุ อส. พระราชวังดุสิตประกาศโฆษณาเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์ และ สิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยทรงรับและพระราชทานสิ่งของด้วยพระองค์เอง ความช่วยเหลือได้ หลั่งไหลเข้าสู่สถานีวิทยุ อส. ชั่วระยะเวลา 1 เดือน มีผู้บริจาคทรัพย์ถึง 11 ล้านบาท และสิ่งของประมาณ 5 ล้านบาท ส่วนผู้ที่ไม่สามารถบริจาคทรัพย์ และสิ่งของได้ก็บริจาคแรงงาน ที่น่าปลื้มใจก็คือ งานนี้ทำโดยอาสาสมัคร ซึ่งส่วนมากเป็นนิสิต นักศึกษา ลูกเสือและนักเรียน ได้ทำการจัดและขนส่งสิ่งของเหล่านั้นไปบรรเทาภัยแก่ประชาชน โดยมีนายเจริญ มโนพัฒนะ รองอธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ รักษาการแทน อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์เข้าเฝ้าฯรับพระราชทานเงินและสิ่งของไปดำเนินการตามพระราชประสงค์ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินให้กระทรวงศึกษาธิการ สร้างโรงเรียนประชาบาลที่ถูกพายุพัดพัง รวม 12 โรงเรียน ใน 6 จังหวัดภาคใต้ และภายหลัง พระราชทานชื่อว่า "โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 1,2,3,4,5 ถึง 12" ตามลำดับนับตั้งแต่ก่อตั้งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ วันที่ 23 สิงหาคม 2506 เป็นต้นมา
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการสร้างโรงเรียนที่ประสบสาธารณภัย และสร้างโรงเรียนใหม่สำหรับบุตรหลานผู้ประสบภัยในจังหวัดต่างๆ รวม ๓๑ โรงเรียน ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ๗ โรงเรียน จังหวัดกระบี่ ชุมพร นราธิวาสหนองคาย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ จังหวัดละ ๒ โรงเรียน จังหวัดสงขลา สุราษฎร์ธานี อุตรดิตถ์เชียงราย พะเยา พิษณุโลก ลำพูน แพร่ ยโสธร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และจังหวัดลพบุรี จังหวัดละ ๑ โรงเรียน
ในจำนวนนี้ เป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษา ๑๙ โรงเรียน โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ (ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา) ๑๕ โรงเรียน โรงเรียนประจำสำหรับเด็กกำพร้าที่บิดามารดาเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ ที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลพบุรี และโรงเรียนประจำที่อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงโหม่ รับเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ (ข้อมูลวันที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๒)
- ประเภทโครงการ : โครงการพัฒนาด้านสวัสดิการสังคม/การศึกษา