โครงการ ก่อสร้างโรงสีพิกุลทองแห่งใหม่

สถานที่ตั้ง

ตำบล เกาะสะท้อน อำเภอ ตากใบ จังหวัด นราธิวาส

รายละเอียดโครงการ ถอดบทเรียน

พระราชดำริ

เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรและติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของโรงสีข้าวพิกุลทอง ในการนี้ ได้มีพระราชดำริโดยสรุป ดังนี้

                   1) ให้ปรับปรุงโรงสีข้าวพิกุลทอง ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และให้พิจารณาถึงจำนวนประชากรที่มาใช้ประโยชน์ อย่างน้อยควรมีขนาดเท่ากับโรงสีข้าวที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช และควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้ามาใช้ประโยชน์ ส่วนเครื่องเก่าให้อนุรักษ์ไว้และปรับปรุงอาคารให้สวยเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยให้สำนักงาน กปร. เร่งรัด ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

                   2) ให้ยุวเกษตรกรและกรรมการโรงสีข้าว ได้ศึกษาเรื่องการบริหารจัดการโรงสีข้าว ตั้งแต่ต้น รวมทั้งการศึกษาด้านบัญชี และหลักสูตรอื่น ๆ ให้ครบวงจร

ผลการดำเนินงาน

          สำนักงาน กปร. ร่วมกับจังหวัดนราธิวาส กรมส่งเสริมสหกรณ์ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสะท้อน ราษฎรในพื้นที่ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินงาน ดังนี้

           1.  ก่อสร้างโรงสีข้าวพิกุลทองแห่งใหม่ และการก่อสร้างลานอเนกประสงค์

            1.1  ก่อสร้างโรงสีข้าวพิกุลทองแห่งใหม่และการก่อสร้างลานอเนกประสงค์ภายในพื้นที่เดิม 

ดำเนินการก่อสร้างอาคารโรงสีข้าวแห่งใหม่ ขนาด 10x15 เมตร

พร้อมปรับปรุงระบบไฟฟ้า 

1.2  การก่อสร้างลานอเนกประสงค์ด้านนอกรั้วของโรงสีเดิม

 

ก่อสร้างลานอเนกประสงค์บริเวณตลาดนัดชุมชนที่อยู่ด้านนอกรั้วของโรงสีเดิม

ขนาด 1,440 ตารางเมตร (40 x 36 เมตร) พร้อมทั้งก่อสร้างรั้วคอนกรีตล้อมรอบ

พื้นที่ดังกล่าว สำหรับใช้เป็นตลาดนัดชุมชน ลานตากข้าว ลานกีฬา

2.  การปรับปรุงและจัดสร้างพิพิธภัณฑ์โรงสีข้าวพิกุลทอง

 

                    จังหวัดนราธิวาส ได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำพิพิธภัณฑ์โรงสีข้าวพิกุลทองขึ้น  เพื่อดำเนินงานให้เป็นไปตามแนวพระราชดำริและสอดคล้องกับสภาพภูมิสังคมของพื้นที่     ซึ่งจากการทำงานร่วมกับปราชญ์ชาวบ้าน  เกษตรกรที่ทำนาในพื้นที่อำเภอตากใบ  และส่วนราชการต่างๆ  ทำให้ทราบถึงวิถีชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ คณะกรรมการฯ โดย            นางวรรณา นาวิกมูล อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และคณะ   จึงได้จัดทำโครงร่างพิพิธภัณฑ์โรงสีข้าวพิกุลทอง ให้มีลักษณะเป็น พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต   โดยจะดำเนินการจัดสร้างในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก กปร. ดังนี้

                    1)  ในเรื่องของอาคารโรงสีพิกุลทองหลังเดิม ยังคงรูปแบบตัวอาคารดังเดิมไว้  โดยจัดตั้ง เครื่องสีข้าวพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็น “พิพิธภัณฑ์ชิ้นเอก ที่ยังสามารถสีข้าวได้ตามความต้องการของราษฎรไว้ภายในอาคาร นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงอาคารเดิมบางส่วน โดยเปิดอาคารด้านข้างเชื่อมต่อกับอาคารที่จะต่อเติมสำหรับเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการ โดยการก่อสร้างอาคารจะมีรูปแบบเดียวกับอาคารเดิมเพื่อให้สอดรับกัน

 

                    2)  การนำเสนอในพิพิธภัณฑ์  นอกจากเครื่องสีข้าวพระราชทานแล้ว  จะประกอบด้วย นิทรรศการ 4 ส่วน คือ

                             - พระมหากษัตริย์กับการเกษตร  โดยจะเน้นความสำคัญในเรื่อง ข้าว เนื่องจากทรงห่วงใยเกษตรกร และคนไทยบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก เช่น พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ การพระราชทานโรงสีพิกุลทอง  เกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นต้น

                             - ข้าวและเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำนา เช่น เครื่องกะเทาะเปลือกข้าวในสมัยก่อน  ปัจจุบันได้วิวัฒนาการมาเป็นเครื่องสีข้าว  เป็นต้น

                             - วัฒนธรรมข้าวและวิถีชีวิตของชาวนาจังหวัดนราธิวาส  แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้าวกับมนุษย์ที่เป็นคนปลูกและคนกิน ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างชาวนาที่นับถือศาสนาพุทธและที่นับถือศาสนาอิสลาม ผ่านทางวิถีชีวิต ความเชื่อ และขนบธรรมเนียมประเพณี  ทั้งในส่วนที่เป็นพิธีกรรมและความบันเทิง

                             -  ในส่วนสุดท้ายจะเป็นการเชื่อมโยงพิพิธภัณฑ์ให้มีชีวิตสานต่อภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยจะเช่าที่นาจำนวน  4  ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่นาร้าง  จัดทำเป็น ศูนย์เรียนรู้ในการทำนา โดยส่งเสริมให้นักเรียนโรงเรียนบ้านปูยู  เรียนวิชาการทำนาจากปราชญ์ชาวบ้าน  และได้ลงมือทำนาด้วยตนเอง  เมื่อทำการเก็บเกี่ยวข้าวได้  ก็จะนำมาสีข้าวที่โรงสีพิกุลทอง  ผลผลิตข้าวที่ได้จะนำไปจัดทำโครงการอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนบ้านปูยู  ต่อไป

                    3)  ในส่วนของการปรับภูมิทัศน์  จะมีการนำพันธุ์ไม้พื้นเมืองมาปลูก      ซึ่งจากการสอบถามราษฎรในพื้นที่พบว่าที่ควรนำมาปลูกมี 13 ชนิด ได้แก่ ตำเสา หว้า ตาลโตนด  ทัง ประดู่ พิกุล ขี้เหล็ก ฯลฯ  เพื่อเป็นการอนุรักษ์พันธุ์ไม้เดิมไว้

          นอกจากนี้  ยังได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากราษฎรที่มีอุปกรณ์โบราณที่ใช้ในการทำนา เมื่อทราบว่าจะมีการทำพิพิธภัณฑ์ ก็พร้อมที่จะน้อมเกล้าฯ ถวายสิ่งของเพื่อนำมาแสดงหรือยินดีให้ถ่ายรูปเพื่อนำมาแสดงจำนวนหลายรายการ

โรงสีข้าวพิกุลทองเดิมที่จะจัดทำเป็น พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต

Description: DSC_0123

เครื่องสีข้าวพระราชทาน พิพิธภัณฑ์ชิ้นเอกของโครงการ

3. การเพิ่มองค์ความรู้และการบริหารจัดการโรงสีข้าวแก่ผู้นำสหกรณ์ ผู้นำชุมชน และเยาวชนในพื้นที่ โดยในปี พ.ศ. 2552 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ดังนี้

 

                   3.1 การบริหารจัดการโรงสีจะดำเนินการในรูปสหกรณ์อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีชุมชนเป็นคณะกรรมการ ด้วยการกำกับดูแลของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส   ซึ่งในระยะแรกจะนำคณะกรรมการไปศึกษาเรียนรู้การบริหารจัดการโรงสีที่โรงสีข้าวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวนประมาณ 45 คน (แบบครบวงจร) จำนวน 2 รุ่นๆ ละ 7 วัน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และศึกษาจากประสบการณ์ตรงด้านเครือข่ายธุรกิจโรงสี

 

                   3.2  จัดอบรมสร้างความรู้แก่เยาวชน ผู้นำชุมชน และราษฎรทั่วไปในเขตตำบลเกาะสะท้อนและตำบลพร่อน รวม 7 ชุมชน จำนวนประมาณ 700 ครัวเรือน เพื่อให้มีองค์ความรู้ด้านการจัดทำบัญชี การวิเคราะห์ต้นทุนและแผนธุรกิจ

 

  • ประเภทโครงการ : โครงการพัฒนาด้านการส่งเสริมอาชีพ

curve