โครงการ ห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สถานที่ตั้ง
ตำบล สมเด็จเจริญ อำเภอ หนองปรือ จังหวัด กาญจนบุรี
รายละเอียดโครงการ ถอดบทเรียน
โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี
--------------------dc-----------------------
พระราชดำริ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริแก่นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2533 สรุปว่า ให้พิจารณาดำเนินการพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่บริเวณตำบลหนองปรือ อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี (ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลสมเด็จเจริญ อำเภอหนองปรือ) เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่มีสภาพเสื่อมโทรมและถูกราษฎรบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าเป็นบริเวณกว้าง และต่อมาได้มีพระราชดำริเพิ่มเติม ให้จัดหาที่ดินจำนวนหนึ่ง เพื่อพัฒนาและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว โดยบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และให้ราษฎรได้อยู่อาศัยทำกินร่วมกับการคงอยู่ของธรรมชาติอย่างเกื้อหนุนกันและกัน และได้พระราชทานชื่อโครงการว่า “โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ”
ผลการดำเนินงาน
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดำเนินการสนองพระราชดำริ โดยมี กรมการปกครอง เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับทุกภาคส่วน เพื่อบูรณาการแผนงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยมีผลการดำเนินงานประจำปี 2552 สรุปได้ดังนี้
1. การจัดตั้งถิ่นฐานถาวร งานห้องเรียนชุมชน มีโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรม 3 แห่ง นักเรียน จำนวน 90 คน ทำให้นักเรียนมีความรู้หลากหลาย โดยการส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และได้ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
|
|
โครงการห้องเรียนชุมชน ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนในพื้นที่เข้าร่วมอบรมให้รู้จักการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ |
|
|
1. การพัฒนาแหล่งน้ำ ได้ดำเนินการก่อสร้างฝายทดน้ำในลำห้วยแม่ระวัง จำนวน 3 แห่ง และก่อสร้างฝายทดน้ำบ้านห้วยหวาย 1 เพื่อสนับสนุนแหล่งน้ำให้มีเพียงพอในการทำการเกษตร
|
ฝายทดน้ำในลำห้วยแม่ระวัง |
|
|
ฝายทดน้ำบ้านห้วยหวาย |
2. การพัฒนาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการ
เพาะชำกล้าสะเดา ฝารวก มะฮอกกานี สมอภิเพก มะค่าโม่ง ประดู่ป่า มะขาม รวมจำนวน 100,000 กล้า สำหรับแจกจ่ายราษฎร และปลูกป่าหวายในพื้นที่ จำนวน 100 ไร่ โดยปลูก 200 ต้น/ไร่ รวมกล้าหวาย จำนวน 20,000 กล้า เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นวัสดุจักสานในอนาคต สำหรับการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ได้ใช้ชุดกำลังจากกองร้อย ตชด. ที่ 133 จำนวน 5 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ออกปฏิบัติการ รวม 79 ครั้ง ส่งผลให้การลักลอบตัดต้นไม้ทำลายป่าลดน้อยลง
|
3. การพัฒนาและส่งเสริมอาชีพ ดำเนินการส่งเสริมสนับสนุนการใช้ผลผลิตจากสะเดาทดแทนการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช การปลูกผักกางมุ้ง การปลูกพืชระบบไฮโดรโปรนิกส์ จัดตั้งระบบและปลูกผัก จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ คะน้าฮ่องเต้ ผักโขม ผักสลัด เห็ดหอม รวมทั้ง ส่งเสริมการปลูกสบู่ดำ จำนวน 1,500 ต้น สำหรับเป็นตัวอย่างและเป็นแหล่งสาธิตให้ความรู้แก่เกษตรกรและผู้สนใจโดยทั่วไป
|
|
โรงเรือนปลูกพืชระบบไฮโดรโปรนิกส์ ซึ่งเป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินพื้นที่ปลูก ได้แก่ คะน้าฮ่องเต้ ผักโขม และผักสลัด เป็นต้น |
|
|
|
|
|
|
แปลงสาธิตการปลูกสบู่ดำ จำนวน 1,500 ต้น เพื่อใช้เป็นต้นแบบให้แก่เกษตรกรและผู้สนใจโดยทั่วไป |
|
|
|
|
4. การพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต
ดำเนินกิจกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยการจัดชุดกำลังจากกองร้อย ตชด. ที่ 133 จำนวน 5 นาย ออกรณรงค์สืบหาข่าว และเยี่ยมทำความเข้าใจกับประชาชน โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรหนองปรือออกตรวจตราเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยทั่วไป ส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษลดจำนวนลง
จัดคลินิกบริการให้แก่ผู้สูงอายุ ทุกวันพฤหัสบดี สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ซึ่งมีผู้สูงอายุมาตรวจสุขภาพในคลินิกระยะเวลา 5 เดือน มีจำนวน 150 คน
จัดประกวดคัดเลือกอาสาสมัครสาธารณสุขดีเด่น แต่ละสาขา จำนวน 11 สาขา เพื่อเตรียมความพร้อมประกวดระดับจังหวัด
จัดอบรมแกนนำนักเรียนหลักสูตรศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่น ให้แก่นักเรียนโรงเรียนประชามงคล จำนวน 42 คน เพื่อจัดตั้งศูนย์ฯ ในโรงเรียน และส่งเสริมกิจกรรมการเรียนการสอนและการแก้ไขปัญหาวัยรุ่นและเฝ้าระวังป้องกันยาเสพติดในโรงเรียน
จัดซื้อเวชภัณฑ์ยา/เวชภัณฑ์มิใช่ยา สำหรับใช้ในคลินิกยาเสพติดเพื่อตรวจปัสสาวะผู้ต้องสงสัย หาสารเสพติด และบำบัดผู้ป่วยไม่สมัครใจ
จัดประชุมเชิงปฏิบัติการฟื้นฟูวิชาอาสาสมัครสาธารณสุขให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จำนวน 494 คน
จัดซื้อหนังสือให้ห้องสมุดโรงเรียนป่าไม้อุทิศ 15 (บ้านม่วงเต่า) บริการนักเรียนที่สนใจการอ่านและใช้เวลาหาความรู้และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน
|
|
|
|
การส่งเสริมกิจการการเรียนการสอนแก้ไขปัญหาวัยรุ่น |
ประโยชน์ที่ได้รับ
การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ราษฎรในโครงการอย่างมีประสิทธิภาพเป็นรูปธรรม ทั้งการบริการด้านสุขภาพอนามัย การศึกษา และการประกอบอาชีพ ตลอดจนการบริหารจัดการในโครงการอย่างเป็นระบบในลักษณะบูรณาการทุกส่วน
- ประเภทโครงการ : โครงการพัฒนาแบบบูรณาการ และโครงการพัฒนาด้านอื่น ๆ