4 น้ำ 3 รส

รายละเอียดองค์ความรู้


การบริหารจัดการน้ำ 4 น้ำ 3 รส
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลุ่มน้ำโก-ลก (มูโนะ)
สำนักชลประทานที่ 17 จังหวัดนราธิวาส
พระราชดำริ
“โครงการชลประทานมูโนะ เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วจะมีประโยชน์ร่วมกันหลายด้าน เช่น ป้องกันน้ำเค็ม การระบายน้ำและเก็บกักน้ำจืดไว้ใช้เพื่อการชลประทาน
ความเป็นมาของโครงการ
   โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลุ่มน้ำโก-ลก (มูโนะ) เกิดขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในคราวเสด็จฯ เยี่ยมเยียนราษฎรบริเวณบ้านปะดังยอ  หมู่ที่  3  ตำบลมูโนะ  อำเภอสุไหงโก-ลก  จังหวัดนราธิวาส  ในเดือนกันยายน  พ.ศ.  2517  โดยได้ทรงทราบถึงความเดือดร้อนของราษฎรที่ประกอบอาชีพทางการเกษตร  ในบริเวณท้องที่ตำบลมูโนะ  ตำบลปูโย๊ะ  อำเภอสุไหงโก-ลก  และตำบลโฆษิต  ตำบลนานาค  ตำบลพร่อน  ตำบลเกาะสะท้อน ตำบลบางขุนทอง  อำเภอตากใบ  ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวนี้เป็นที่ลุ่มชายฝั่งแม่น้ำโก-ลกและชายพรุโต๊ะแดงจะมีระดับน้ำท่วมอยู่เป็นประจำจนทำความเสียหายให้แก่พื้นที่เพาะปลูกเป็นประจำทุกปีเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระราชดำริให้กรมชลประทานศึกษาและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับราษฎร กรมชลประทานจึงพิจารณาวางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลุ่มน้ำโก-ลกขึ้น

 
4  น้ำ       ประกอบด้วย   น้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำเค็ม และ น้ำเปรี้ยว
3 รส  ประกอบด้วย รสจืด  รสเค็ม  และรสเปรี้ยว
น้ำท่วม  
เนื่องจากพื้นที่โครงการเป็นพื้นที่ราบลุ่มติดแม่น้ำโก-ลก  ในช่วงฤดูฝน รับน้ำจากฝนที่ตกในเขตพื้นที่โครงการ  น้ำจากพรุโต๊ะแดง  และน้ำในแม่น้ำโก-ลก  ไหลบ่าล้นตลิ่ง  ทำให้เกิด น้ำท่วม  พื้นที่การเกษตร  และบ้านเรือนราษฎร  ในเขตอำเภอ สุไหงโก-ลก  และอำเภอตากใบ การระบายน้ำออกจากพื้นที่ใช้ระยะเวลานาน เนื่องมีความลาดชันของพื้นที่น้อย  และเนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว  มีน้ำทะเลจากอ่าวไทยหนุนสูง เป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ 
น้ำแล้ง
 ในฤดูแล้งพื้นที่โครงการจะขาดแคลนน้ำ  เนื่องจากฝนทิ้งช่วงและน้ำในแม่น้ำโก-ลกมีปริมาณการไหลต่ำกว่า 30 ลบ.ม./ วินาที ตามข้อตกลงของการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโก-ลก ซึ่งเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศของประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย จะไม่อนุญาตสามารถผันน้ำเข้าคลองมูโนะไปใช้งานได้
น้ำเค็ม           
เนื่องจากเป็นพื้นที่ในเขตอำเภอตากใบอยู่ติดทะเล  ในช่วงหน้าแล้ง น้ำทะเลไหลย้อนกลับเข้ามาในแม่น้ำโก-ลก แ ละลำน้ำสาขา  เช่น คลองปูยู  คลองโต๊ะแดง  ทำให้ไม่สามารถนำน้ำไปใช้ประโยชน์ในการเกษตรและเพื่อการผลิตน้ำประปาได้                     
น้ำเปรี้ยว
 น้ำที่ไหลออกจากพรุโต๊ะแดงผ่านพื้นที่การเกษตรในเขตโครงการ  ซึ่งมีค่า PH ต่ำ (มีค่าความเป็นกรดสูง) ช่วงหน้าแล้งประมาณ 3.0 ช่วงหน้าฝน ประมาณ 4.0 ทำให้ดินมีสภาพเป็นกรด ไม่สามารถทำการเกษตรได้   หรือหากทำให้ก็ผลผลิตต่ำ วงจรของสภาพปัญหาเกิดขึ้นซ้ำ ๆ เป็นประจำทุกปี
 
 แนวทางการบริหารจัดการ 4 น้ำ 3 รส
การบริหารจัดการน้ำท่วม
              ใช้คลองมูโนะเป็นคลองระบายน้ำสายหลัก และใช้คลองระบายปาเสมัส คลองระบายสาย 4  (โต๊ะแดง) แลคลองสายซอยต่างๆ  เพื่อระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่โดยการ
1)     ปิดประตูระบายน้ำปากคลองมูโนะและท่อระบายน้ำปากคลองปาเสมัส    
เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากแม่น้ำโก-ลก ไหลเข้าไปท่วมพื้นที่การเกษตรในเขตโครงการ
 2) เปิดประตูระบายน้ำกลางคลองมูโนะ ประตูระบายน้ำปลายคลองมูโนะ (ปูยู) ประตูระบายน้ำปลายคลองโต๊ะแดง และประตูระบายน้ำอาคารประกอบคันกั้นน้ำต่างๆ   เพื่อเร่งระบาย น้ำลงแม่น้ำโก-ลก   และลงทะเลอ่าวไทยต่อไป หากระดับน้ำในแม่น้ำโก-ลก สูงกว่าระดับน้ำในเขตพื้นที่โครงการก็ให้ปิดอาคารประกอบคันกั้นน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำในแม่น้ำโก-ลก ไหลเข้ามาท่วมในเขตพื้นที่โครงการ
       3) สูบระบายน้ำโดยสถานีสูบน้ำถาวร จำนวน 4 สถานี ได้แก่สถานีแฆแบะ สถานีนาคออีบู สถานีกัวลอต๊ะ และสถานีบ้านโคกมือบา และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่บริเวณพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากต่างๆเพื่อเร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่                       
          กรณีระดับน้ำในในพื้นที่โครงการสูงกว่าในคลองระบายน้ำมูโนะ  ให้เปิดประตูปลายคลองประกอบคันกั้นน้ำทุกแห่งเพื่อช่วยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรไปลงคลองมูโนะและไหลลงทะเลต่อไป
             
ปัญหาน้ำแล้ง  (ขาดแคลนน้ำ)
         พื้นที่เพาะปลูกที่สามารถส่งน้ำโดยระบบแรงโน้มถ่วง   ได้คือ  พื้นที่ในเขตตำบลเกาะสะท้อน   มีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ  5,650 ไร่ การส่งน้ำในพื้นที่บริเวณนี้ จะทดน้ำที่ประตูระบายน้ำปลายคลองมูโนะ (ปูยู) เพื่อยกระดับน้ำให้สูงขึ้น ที่ระดับ +1.200 ม. (ร.ท.ก.)  ถึง  +1.500 ม.(ร.ท.ก.)และส่งไปตามคลองส่งน้ำสายต่างๆ  ส่วนพื้นบ้าน โคกกูแว โคกอิฐ-โคกใน สามารถส่งน้ำได้ทั้งโดยแรงโน้มถ่วงและเครื่องสูบน้ำ  ขึ้นกับระดับน้ำในคลองมูโนะ โดยต้องทดน้ำหน้า ปตร.กลางคลองมูโนะที่ระดับระดับ+1.750 ม.( ร.ท.ก.) นอกจากนี้ยังมีพื้นที่หมู่บ้านปศุสัตว์-เกษตรมูโนะ 1,500 ไร่ บ้านโคกโบร 1,500 ไร่ บ้านสะหริ่ง 950 ไร่บ้านปลักปลา 400 ไร่  บ้านบอฆอ 1,500 ไร่และ บ้านทุ่งนาหว่าน 850 ไร่
      
                ก่อนการส่งน้ำแต่ละฤดูกาลจะต้องจัดประชุมราษฎรร่วมกับเกษตรอำเภอและผู้นำท้องถิ่นเพื่อกำหนดพื้นที่ส่งน้ำ รอบเวรการส่งน้ำ และมีการประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรในพื้นที่ทราบโดยทั่วกัน หรืออาจจะมีป้ายแสดงรอบเวรการส่งน้ำติดตั้งไว้บริเวณต้นคลองส่งน้ำสายต่างๆ   เนื่องจากในช่วงอัดน้ำช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรของเกาะสะท้อน อาจทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ด้านเหนือน้ำบริเวณบ้านสะหริ่ง บ้านบอฆอ ต้องแก้ปัญหาโดยการบริหารจัดการน้ำ ตามข้อตกลงของเกษตรกรผู้ใช้น้ำของทั้ง 2 พื้นที่
       การส่งน้ำโดยระบบสูบน้ำ  (Pumping)
         พื้นที่ที่ส่งน้ำโดยระบบสูบน้ำมี 2 พื้นที่คือ
        1) พื้นที่สถานีสูบน้ำบ้านโคกกูแว บ้านโคกอิฐ-โคกใน ในเขตตำบลพร่อน อำเภอตากใบ พื้นที่ชลประทานประมาณ 6,195 ไร่ โดยพื้นที่นี้ส่งน้ำได้ทั้ง 2แบบ คือ   ในกรณีระดับน้ำในคลองมูโนะสูงเพียงพอจะส่งโดยแรงโน้มถ่วงของโลก กรณีระดับน้ำต่ำจะสูบน้ำส่งเข้าคลองส่งน้ำแทน
        2) พื้นที่สถานีสูบน้ำโครงการเกษตรแบบผสมผสานมูโนะ และบ้านโคกกลาง ในเขตตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก โดยเครื่องสูบน้ำ  ขนาด  Æ 12นิ้ว  จำนวน 1 เครื่อง  ระบบส่งน้ำ   จำนวน  10  สาย  รวมความยาว  8.90  กม.พื้นที่ชลประทานรวม 2,000 ไร่ 
           ก่อนการส่งน้ำแต่ละฤดูกาลจะต้องจัดประชุมราษฎรผู้ใช้น้ำร่วมกับเกษตรอำเภอและผู้นำท้องถิ่นเพื่อร่วมกันกำหนดพื้นที่  ส่งน้ำ  แผนการส่งน้ และมีการประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรในพื้นที่ทราบทั่วกัน
        การส่งน้ำโดยคลองระบายน้ำ
          วัตถุประสงค์ของโครงการในระยะแรกเพื่อการบรรเทาอุทกภัย    โดยคลองระบายน้ำมูโนะและคลองระบายน้ำสายต่าง ๆ  จะช่วยระบายน้ำที่ท่วมขังลงทะเลได้รวดเร็วขึ้น  หลังจากสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมขังได้  ราษฎรได้เริ่มทำการเกษตรมากขึ้น    จึงได้มีการปรับเอาระบบระบายน้ำมาทำหน้าที่ส่งน้ำด้วย โดยใช้วิธีปิดประตูระบายน้ำปลายคลองสายต่างๆ  เพื่อยกระดับน้ำให้สูงขึ้นแล้วไหลเข้าแปลงเพาะปลูกเป็นการส่งน้ำแบบย้อนทิศทางกับลาดท้องคลอง  มีพื้นที่ที่ใช้น้ำจากคลองระบายน้ำดังกล่าว  รวมประมาณ   73,000 ไร่ 
          อนึ่ง หากปริมาณน้ำจากคลองระบายไม่เพียงพอสำหรับช่วยเหลือพื้นที่ทำการเกษตรจะต้องสนับสนุนเครื่องสูบน้ำมาสูบช่วยเหลือพื้นทีการเกษครตามความจำเป็น
การบริหารจัดการปัญหาน้ำเค็ม
            พื้นที่การเกษตรในเขตอำเภอตากใบ ส่วนใหญ่อยู่ติดทะเลด้านอ่าวไทย ได้แก่บริเวณปากแม่น้ำโก-ลก   ริมแม่น้ำบางนรา   คลองปูยู   และคลองโต๊ะแดง ในช่วงฤดูแล้ง ปริมาณน้ำจืดในลำน้ำดังกล่าวมีปริมาณน้อยลง น้ำเค็มก็จะรุกล้ำเข้ามาแทนที่ ทำความเสียหายให้แก่พื้นที่เพาะปลูก และกระทบกับแหล่งน้ำดิบเพื่อการผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค อำเภอตากใบ  โดยเฉพาะพื้นที่เพาะปลูก ในบริเวณตำบลเกาะสะท้อน การป้องกันน้ำเค็มรุกเข้าพื้นที่ กรมชลประทานได้ก่อสร้างคันกั้นน้ำเค็มและอาคารประกอบรอบพื้นที่ตำบลเกาะสะท้อน  เพื่อป้องกันน้ำเค็มไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่เพาะปลูกบริเวณบ้านโคกมือบาบ้านโคกโต๊ะจุ๊บ บ้านปะลูกา และบ้านปะดาดอ อีกด้วยโดยเริ่มจากบริเวณคลองปูยูเชื่อมต่อกับแม่น้ำโก-ลกบริเวณบ้านศรีพงันกับบ้านปะลุกา ไปตามริมฝั่งซ้ายแม่น้ำโก-ลก   ช่วงแม่น้ำบางนราและคลองปูยู   คันกั้นน้ำทั้งสองฝั่งคลองโต๊ะแดงเชื่อมต่อกับคันกั้นน้ำเค็มทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโก-ลก  
          ในการบริหารจัดการระบบป้องกันน้ำเค็มรุกล้ำ จะต้องปิดประตูท่อลอดประกอบคันกั้นน้ำทุกแห่งเพื่อป้องกันน้ำเค็มไหลเข้าพื้นที่ และหมั่นตรวจสอบเครื่องกว้านบานระบายให้สามารถใช้งานได้ดีอยู่เสมอ  และมีการก่อสร้างทำนบซองชั่วคราวในช่วงหน้าแล้งตามความจำเป็นอีกด้วย
การบริหารจัดการปัญหาน้ำเปรี้ยว
 น้ำที่ไหลออกจากพรุโต๊ะแดงในฤดูแล้งและฤดูฝนเป็นน้ำเปรี้ยวมีคุณสมบัติเป็นกรดไม่สามารถนำน้ำไปใช้เพื่อการเกษตรได้และน้ำเปรี้ยวยังทำให้เกิดปัญหาดินเปรี้ยวตาม มาใช้วิธีการแยกน้ำเปรี้ยวออกจากคลองน้ำจืดโดยบังคับให้น้ำเปรี้ยวระบายออกจากพื้นที่โครงการโดยคลองระบายน้ำเปรี้ยวสายต่างๆ เช่น  คลองโคกไผ่ -คลองลาน (คลองระบายน้ำสาย 16) คลองระบายน้ำสาย 10 และคลองระบายน้ำสาย 13 ได้อย่างอิสระได้ตลอดเวลา ก่อสร้างคันกั้นน้ำเปรี้ยวและอาคารเพื่อควบคุมการระบายและรักษาระดับนอกจากนี้ยังนำน้ำจืดไปปรับปรุงดินเปรี้ยวและเจือจางน้ำเปรี้ยวในบริเวณบ้านโคกอิฐ-โคกใน
  อนึ่ง ตามแนวคลองระบายน้ำมูดนะ และคลองระบายน้ำปาเสมัส มีคลองระบายน้ำเปรี้ยวไหลลงจำนวนหลายสายและบางแห่งก็เป็นอาคารรับน้ำจากพื้นที่ป่าพรุ ซึ่งออกแบบไว้เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ในช่วงฤดูฝน สำหรับในช่วงฤดูแล้งจะต้องปิดประตูอาคารบังน้ำต่างๆเหล่านี้ ไม่ให้น้ำเปรี้ยวไหลลงในคลองระบายทั้ง 2 สายดังกล่าวเนื่องจากจะมีผลกระทบกับพื้นที่การเกษตรของโครงการ
นอกจากนี้โครงการยังต้องมีภารกิจในการควบคุมระดับน้ำในพรุโต๊ะแดง ซึ่งเป็นป่าพรุขนาดใหญ่ มีพื้นที่ประมาณ 187,000 ไร่  น้ำท่วมขังอยู่ตลอดเวลา มีความสำคัญยิ่งในระบบนิเวศน์   ในฤดูแล้งถ้าระดับน้ำในพรุลดลงมากจนผิวดินบางแห้งแห้ง แร่ธาตุต่าง ๆ ที่สะสมอยู่ในดินจะทำปฏิกิริยากับอากาศ ทำให้เกิดไฟไหม้ป่าได้ แต่ปรากฏการณ์นี้จะเกิดได้ยากมาก โดยทั่วไปแล้ว สาเหตุไฟไหม้พรุโต๊ะแดง  เกิดจากราษฎรเผาป่าเพื่อขยายพื้นที่ทำการเกษตรและที่อยู่อาศัย ซึ่งทำความเสียหายต่อพันธุ์ไม้ สัตว์ป่าชนิดต่างๆ  ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำ ที่อาคารบังคับน้ำรอบขอบพรุ จำนวน 8  แห่ง ไม่ให้มีระดับต่ำเกินไป  โดยปกติจะควบคุมระดับน้ำไว้ที่ +1.200 ม.(รทก.)     
 ผลประโยชน์ด้านการเกษตรของโครงการ
1)         ช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่โครงการ
2)         ช่วยสนับสนุนการทำนาปรังและปลูกพืชฤดูแล้ง
3)         เพื่อป้องกันน้ำเค็มรุกล้ำพื้นที่
4)         เพื่อส่งน้ำให้แก่พื้นที่เพาะปลูกในช่วงฤดูฝน
5)         เป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับการประปา
6)         เพื่อขยายพันธุ์ปลาน้ำจืด
7)         ปรับปรุงและป้องกันการแพร่กระจายของดินเปรี้ยวและน้ำเปรี้ยว
8)         เพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมรักษาระดับน้ำในป่าพรุสิรนธร (พรุโต๊ะแดง)

curve