เส้นทางเกลือ

รายละเอียดองค์ความรู้

“ ให้พิจารณาแก้ไขปัญหาของการขาดสารไอโอดีนของราษฎรโดยการสำรวจ พื้นที่ในแต่ละพื้นที่ถึงปัญหา และความต้องการเกลือซึ่งแต่ละท้องถิ่นจะมีปัญหาและความต้องการไม่เหมือนกันโดนเฉพาะต้องสำรวจ “เส้นทางเกลือ” ว่าผลิตจากแหล่งใดก็น่าที่จะนำเอาไอโอดีนไปผสมกับแหล่งผลิตต้นทางเกลือเสียเลยทีเดียว ” พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมชมกิจกรรมของวิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ วันที่ 9 มีนาคม 2536 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพบว่า ราษฎรในพื้นที่ต่างๆ ทางภาคเหนือและภาคอีสาน มีปัญหาการขาดสารไอโอดีนจนเกิดเป็นโรคคอพอกเป็นจำนวนมาก และได้เข้ารับการรักษาจากคณะแพทย์หลวงที่ตามเสด็จพระองค์อยู่เสมอ ทำให้พระองค์ ทรงสนพระราชหฤทัยในการแก้ไขโรคขาดสารไอโอดีนเป็นอย่างมาก โดยได้ทรงเสด็จฯ ไปเยี่ยมชมกิจกรรมของมหาวิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ และทอดพระเนตรการสาธิตการทำงานของเครื่องผสมเกลือไอโอดีน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ผลิตและน้อมเกล้าฯ ถวายซึ่งต่อมา พระองค์ได้พระราชทานต่อให้กับจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ ที่ราษฎรประสบกับปัญหาการขาดสารไอโอดีน พร้อมทั้งได้พระราชทานพระราชแนวพระราชดำริเกี่ยวกับเส้นทางเกลือไว้ดังนี้

•ศึกษาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดสารไอโอดีนตั้งเริ่มจากแหล่งผลิตจนถึงผู้บริโภค

•นำไอโอดีนไปผสมกับแหล่งผลิตหรือแหล่งจัดจำหน่าย

•พื้นที่ที่ไม่สามารถเติมไอโอดีนที่แหล่งต้นทางได้ ก็นำเครื่องผสมไอโอดีนไปให้บริการในลักษณะของการบริการแบบเคลื่อนที่

•ทรงกำหนดให้อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอำเภอต้นแบบของการศึกษาและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนสารไอโอดีน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกำหนดให้ใช้อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอำเภอต้นแบบในการศึกษาแก้ไขปัญหาการขาดแคลนสารไอโอดีนว่ามี “เส้นทางเกลือ” มาจากแหล่งใด ผลการสำรวจ “เส้นทางเกลือ” ตั้งแต่เดือนเมษายน 2536 เป็นต้นมาสรุปได้ว่า เกลือที่ผสมไอโอดีนส่วนใหญ่เป็นเกลือป่น ส่วนเกลือที่ไม่ได้ผสมสารไอโอดีนเพิ่มเข้าไปจะมีทั้งเกลือป่นและเกลือเม็ด เกลือป่นส่วนใหญ่เป็นเกลือสินเธาว์จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเกลือเม็ดส่วนใหญ่เป็นเกลือสมุทรจากสมุทรสงคราม สมุทรสาครและเพชรบุรี โดยมีเส้นทางเกลือที่สำคัญ รวม 4 เส้นทาง คือ ส่วนที่ 1 จากจังหวัดสมุทรสาคร ส่งไปยังตัวเมืองเชียงใหม่ และส่งขายต่อร้านค้าย่อยในอำเภอ สะเมิง ส่วนที่ 2 พ่อค้าเชียงใหม่ซื้อตรงจากสมุทรสาคร มาบรรจุใส่ซองนำขึ้นรถปิกอัพเร่ขายในอำเภอสะเมิงและพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนที่ 3 พ่อค้าจากมหาสารคาม ซื้อเกลือสินเธาว์ป่น จังหวัดอุดรธานี และสกลนคร มาบรรจุซองส่งขายถึงเชียงใหม่ และเข้าสู่อำเภอสะเมิงในที่สุด ส่วนที่ 4 จากกรุงเทพมหานคร โดยพ่อค้ารายใหญ่จัดส่งไปขายที่เชียงใหม่และแถบใกล้เคียงโดย ใช้เกลือสมุทรธรรมดา การศึกษาถึงแหล่งที่มาของเกลือตามแนวพระราชดำรินี้ ช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาการขาดสารอาหารของประชาชนได้ ด้วยการเติมสารไอโอดีนยังแหล่งต้นทางการผลิตเกลือ ก่อนที่จะกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆของประเทศ

วิธีการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนหรือเกลืออนามัย

        โดยปกติแล้วคนเราต้องการธาตุไอโอดีนวันลประมาณ 100-150 ไมโครกรัมในปริมาณเกลือที่บริโภคต่อวัน เฉลี่ย 5.4 กรัม
อัตราส่วนเกลือไอโอดีน
ต้องใช้ปริมาณไอโอเดทที่เสริมในเกลืออัตราส่วน 1:20,000 โดยน้ำหนัก
เกลือ 1 กิโลกรัม ต้องเสริมโปแตสเซียมไอโอเดท 50 มิลลิกรัม เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับไอโอดีนวันละ 150 ไมโครกรัมต่อคนต่อวัน
โปแตสเซียมไอโอเดท 1 กิโลกรัม ผสมเกลือได้ 18 ตัน ซึ่งมีหลายวิธีการ ดังนี้
การเสริมไอโอดีนในเกลือโดยใช้วิธีผสมเปียก
โดยการใช้ผงไอโอเดทปริมาณ 25 กรัม ผสมกับน้ำจำนวน 1 ลิตร ซึ่งผลการ
ทดลอง ของวิทยาลัยเทคนิคสกลนครสามารถผลิตเกลือผสมไอโอดีนได้ครั้งละ 60 กิโลกรัม โดยการพ่นฉีด
แต่ละครั้ง 60 กิโลกรัม โดยการพ่นฉีดแต่ละครั้ง จะใช้ไอโอดีนน้ำผสมประมาณครั้งละ 200 ซีซี. ต่อเกลือจำนวน 60 กิโลกรัม ซึ่งพบว่าได้ความเข้มข้นของไอโอดีนสม่ำเสมอดี

การเสริมเกลือไอโอดีนแบบผสมแห้ง
เป็นเครื่องผสมเกลือไอโอดีนที่ดำเนินการได้ง่ายและมีประสิทธิภาพสูงโดยใช้วิธีผสมแห้งและใช้หลักการทำงานของเครื่องผสมทรายหล่อ และหลักการทำงานของเครื่องไซโลผสมอาหารสัตว์มาเป็นการทำงานของเครื่องผสม เกลือไอโอดีน ซึ่งใช้สะดวก กะทัดรัด ประหยัด ผสมได้ครั้งละ 60 กิโลกรัม โดยใช้ใบกวนหมุนภายในถังที่ตรึงอยู่กับที่  โดยให้ความเร็วของการหมุนใบกวนสัมพันธ์กับลักษณะของใบกวนที่วางใบให้
เป็นมุม เอียง เพื่อให้เกลือไหลและเกิดการพลิกตลอดเวลา ใช้เวลาในการคลุก 2 นาที โดยการหมุนทวนเข็มนาฬิกา ในกรณีที่มีความประสงค์จะผสมเกลือไอโอดีนด้วยตนเอง ก็สามรถทำได้ในอัตราส่วนดังกล่าว โดยใช้กระบะและไม้พายผสมโดยใช้แรงคนใช้เวลาผสมประมาณ 20 - 30 นาที หรือนานกว่าจึงจะได้ส่วนผสม
ที่ใช้การได้

             “เส้นทางเกลือ” จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงห่วงใยในทุกวิถีแห่งการดำรงชีพของมวลพสกนิกรทั้งหลายโดยแท้

curve