รายละเอียดองค์ความรู้
องค์ความรู้จาก "โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่ากุยบุรี"
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริ เมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๔๐ ให้อนุรักษ์และฟื้นฟูป่ากุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และมีพระราชดำริเพิ่มเติมอีกหลายครั้งในช่วงปี ๒๕๔๑ - ๒๕๔๒ สรุปสาระสำคัญให้ปลูกป่าโดยปล่อยให้ขึ้นเองตามธรรมชาติ ปลูกพืชอาหารสัตว์โดยเฉพาะช้างป่า ปลูกป่าโดยนำเมล็ดพันธุ์พืชโปรยหว่านทางอากาศ ปลูกพืชโดยจ้างชาวบ้าน ปลูกพืชโดยให้ทหารที่มีหน้าที่ลาดตระเวนนำเมล็ดพันธุ์พืชเข้าไปปลูกในป่าลึกๆ พัฒนาแหล่งน้ำในรูปแบบต่างๆเพื่อฟื้นฟูป่าและให้ราษฎรได้ใช้ประโยชน์ พัฒนาที่ดินโดยใช้หญ้าแฝก
![]() |
![]() |
สภาพป่าในปัจจุบัน
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดำเนินงาน โดยกำหนดพื้นที่โครงการบริเวณป่ากุยบุรีเหนืออ่างเก็บน้ำยางชุม ประมาณ ๒๒๘,๖๕๖ ไร่ มีพื้นที่การเกษตรของราษฎร ๓ หมู่บ้าน คือ บ้านรวมไทย บ้านพุบอน และบ้านย่านซื่อตำบลหาดขาม
การอนุรักษ์และฟื้นฟูป่า ก่อสร้างฝายชะลอน้ำ ๑,๕๑๑ แห่ง อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ๙ แห่ง ปลูกป่าประมาณ ๑๘,๐๐๐ ไร่ โปรยหว่านเมล็ดพันธุ์พืช เช่น มะขาม มะเกลือ กระถิน ตามเส้นทางเดินของช้างป่า ระยะทาง ๔๘ กิโลเมตร ปลูกหญ้าแฝกเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ ๔,๐๐๐ ไร่ และฝึกอบรมราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.)
![]() |
![]() |
ฝายชะลอน้ำ
การส่งเสริมพัฒนาอาชีพ ขุดสระน้ำประจำไร่นา ความจุ ๑,๒๖๐ ลูกบาศก์เมตร ๓๐ แห่ง ปลูกหญ้าแฝกในลักษณะจ้างงาน ๗๐,๐๐๐ กล้า ปรับปรุงบำรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ ๒๐๐ ไร่ ปลูกพืชแบบผสมผสานและเลี้ยงไหม ๓๒ ราย ปลูกผักปลอดสารพิษ ๒๐ ราย ในพื้นที่ ๑๐๐ ไร่ ปลูกพืชอาหารสัตว์ ๙ ราย ในพื้นที่ ๑๐๕ ไร่ ส่งเสริมการเลี้ยงแพะ ๕๐ ราย แจกพันธุ์ปลา ๒๐ ราย
การปลูกหญ้าแฝก
ผลการดำเนินงานโครงการ ทำให้ราษฎรมีความเข้าใจและมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่า และลดปัญหาความขัดแย้งที่เกิดจากช้างป่าออกมากินพืชผลของราษฎร
องค์ความรู้ที่ได้จากผลการดำเนินงานโครงการ ได้แก่
๑. การปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก
๒. การฟื้นฟูป่าโดยฝายชะลอน้ำ
๓. การพัฒนาที่ดินโดยใช้หญ้าแฝก
๔. การปลูกป่าโดยการหว่านโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ
๕. การแก้ปัญหาช้างป่ามากินพืชผลของราษฎร
![]() |
![]() |
![]() |
การโปรยเมล็ดพันธุ์พืชทางอากาศ
![]() |
![]() |
แปลงพืชอาหารช้างป่า
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
การพัฒนาอาชีพราษฎร
กลุ่มนโยบายพิเศษ
๓๑ มกราคม ๒๕๖๓